:::: เฟสบุ๊ค ร่วมทุน ไมโครซอฟท์ :::::
ไมโครซอฟท์ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท ได้เสร็จสิ้นการวางสายเคเบิลใต้ทะเล Marea ซึ่งทอดยาว 4,400 ไมล์ระหว่างเวอร์จิเนียบีชเวอร์จิเนียและบิลบาวประเทศสเปน
โครงการนี้เป็นการร่วมกันของ บริษัท Microsoft, Facebook และ บริษัท โทรคมนาคมระดับโลก Telxius ซึ่งเป็นสายเคเบิลอยู่เหนือพื้นผิวมหาสมุทรประมาณ 17,000 ฟุต เป็นสายแรกที่เชื่อมโยงเวอร์จิเนียและสเปน ปลายทางคือเมือง Bilbao ทำให้เข้าถึงฮับเครือข่ายในแอฟริกาตะวันออกกลางและเอเชีย
Marea ตั้งอยู่หลายไมล์ทางใต้ของจุดเชื่อมต่อปัจจุบันระหว่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเหตุการณ์ที่เป็นการก่อกวนที่สำคัญอื่น ๆ
การออกแบบแบบเปิดจะทำให้มันมีวิวัฒนาการด้วเทคโนโลยีและทำงานร่วมกับอุปกรณ์เครือข่ายหลากหลายประเภท
“ความสำเร็จของโครงการนี้อาจเป็นตัวอย่างสำหรับโครงการริเริ่มด้านการสื่อสารระดับโลกและอื่นๆที่คล้ายกัน” เจมส์สกอตต์นักวิจัยอาวุโสของ Institute for Critical Infrastructureกล่าว
เริ่มต้นการติดตั้งสายเคเบิล Marea
ประกาศในเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2559 Marea มีกำหนดแล้วเสร็จในต้นปี พ.ศ. 2561 การก่อสร้างสองปีนี้มีขนาดประมาณสามเท่าเร็วกว่าเกณฑ์ปกติ
Marea รองรับการเชื่อมต่อ Tbits / secได้สูงสุด 160 สายและเป็นสายเคเบิลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีความจุสูงสุดในปัจจุบัน
Brookings Institute กล่าวว่าสายเคเบิลใต้น้ำข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมีข้อมูลมากกว่าดาวเทียมคู่ขนานถึง 55 เปอร์เซ็นต์และข้อมูลมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสหรัฐฯและละตินอเมริกา
Marea จะยกระดับไมโครซอฟท์ให้มีcloudมากขึ้น Suresh Kumar รองประธานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์กล่าวและการดำเนินงาน พร้อมกับการประกาศความสำเร็จของ Marea ไมโครซอฟท์ได้ประกาศถึง Azure Availability Zones บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับความยืดหยุ่นและความพร้อมใช้งานที่สูง
จิมแมคเกรเกอร์นักวิเคราะห์หลักของTirias Researchกล่าวว่า “ยิ่งเครือข่ายในอินเทอร์เน็ตมีแบนด์วิธเพิ่มขึ้นเท่าใด … ทำให้ความสามารถในการให้บริการที่มีคุณภาพสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถให้ทั้งสอง บริษัท มีรูปแบบของธุรกิจที่ใหม่และเพิ่มรายได้, McGregor กล่าว. “โครงสร้างพื้นฐานระดับโลกส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบสำหรับการรับส่งข้อมูลทางเสียงโครงการนี้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดพร้อมกับคาดหวังว่าจะมีการใช้ข้อมูลหลายรูปแบบ”
ที่มา : เทคนิวส์เวิลด์
:::::สำนักข่าวสวัสดีนิวส์:::::