บริษัททัวร์แสบลอยแพ 61 คนไทยทิ้งสุวรรณภูมิ ตุ๋นเที่ยวญี่ปุ่นเหยื่อสูญ 1.8 ล้าน

419

61ลูกทัวร์ไทยไปฮอกไกโดฝันสลายถูกบริษัททัวร์ลอยแพกลางสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่บางคนพากันถ่ายรูปกับป้ายสถานีตำรวจแทนสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อปลอบใจตัวเอง

กลุ่มลูกทัวร์ชาวจังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด 61 รายพากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิโดยมี พ.ต.อ.พิจิตร อังศุภานิช ผู้กำกับสอบสวน กองบังคับการสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ช่วยราชการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นหัวหน้าทีมพนักงานสอบสวนบูรณาการในการรับแจ้งความโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกองกับกำการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวและรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายทั้ง 61 คน

น.ส.ณัฐชา เชาว์วาทินหนึ่งในผู้เสียหาย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนเองและกลุ่มเพื่อนๆ พนักงานภายบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ทั้งหมด 61 คนได้วางแผนกำหนดการจะเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่นจึงได้ติดต่อบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาที่เคยให้จัดนำเที่ยวกับทางพนักงานของทางบริษัทมาก่อนหน้านี้ได้เข้ามาจัดกรุ๊ปทัวร์นำเที่ยวเมืองฮอกไกโดอีกครั้งโดยมีโปรแกรมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมายพร้อมกับที่พักรวมถึงค่าเครื่องบินไปกับ และยังมีบริการรถทัวร์ขึ้นจากจังหวัดนครราชสีมามาส่งยังสนามบินสุวรรณภูมิโดยคิดค่าหัวหัวละ 30000 บาท ต่อคนรวมเป็นเงินแล้วกว่า 1.8 ล้านบาทจึงมีการตอบตกลง และจะออกเดินทางวันที่ 20 ต.ค.60 – วันที่ 24 ต.ค.60 ด้วยสายการบินไทยโดยแบ่งจ่ายเงินทั้งหมด 3 งวด

จนกระทั่งวันนี้ซึ่งเป็นกำหนดการเดินทางของทัวร์กลุ่มนี้ เมื่อเดินทางมาถึงยังสนามบินสุวรรณผู้ที่นำเที่ยวได้แจ้งกับทุกคนว่าให้เข้าไปเช็ดอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินไทยได้เลยโดยไม่ต้องใช้ตั๋วแต่อย่างใดและเมื่อพากันไปติดต่อเจ้าหน้าที่การบินไทยที่เคาน์เตอร์กลับพบว่าไม่มีชื่อการจองซื้อตั๋วกับการบินไทยไว้แต่อย่างใดและเมื่อหันมามองหาผู้นำเที่ยวหรือเจ้าของบริษัททัวร์รายนี้กลับไม่พบตัวและพยามติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ก็ไม่รับสายจึงพากันมาแจ้งความในครั้งนี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกองบังคับการ 6 กองกำกับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เข้าควบคุมตัว นาย พัชร์ฐณัฐ วงศ์วังจันทร์ อายุ 31 ปี( เสื้อสีเทาแดงใส่แว่นตา )ผู้ที่ดูแลลูกทัวร์กลุ่มนี้มาสอบปากคำที่สภ.โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้คุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติมส่วนข้อหาฉ้อโกงนั้นจะต้องรอพนักงานสอบสวนสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆส่งไปยังตำรวจท้องที่จังหวัดนครราชสีมาเนื่องจากเป็นสถานที่เกิดเหตุพร้อมกันนี้จะได้ให้บริษัททัวร์แห่งนี้คืนเงินให้กับผู้เสียหายทั้งหมดอีกด้วย

sawasdeenews

0%
Comments
Loading...