ย้อนอดีตมองอนาคตการเมือง”พ่อกับลูกๆ”

466

ย้อนอดีตมองอนาคตการเมือง”พ่อกับลูกๆ”
“ประเทศไทยของเราไม่ใช่ประเทศของคนสองคนแต่เป็นประเทศของทุกคน เข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากัน แก้ไขปัญหาเพราะปัญหามีอยู่ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่า”บ้าเลือด”
เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัวลงท้ายเขาไม่รู้ตีกันเพราะอะไรแล้วเราจะแก้ปัญหาอะไรเพียงแต่จะต้องเอาชนะแล้วมีใครชนะ ไม่มีทางอันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ
ประชาชนจะเป็นประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่ประชาชนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ถ้าสมมุติว่าเฉพาะในกรุงเทพฯเสียหายไป ประเทศเสียหายทั้งหมด แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะเวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง”
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระราชทานแก่พลเอกสุจินดาคราประยูรและพลตรีจำลองศรีเมืองเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2535


เมื่อเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเป็นความขัดแย้งทางการเมืองครั้งหนึ่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย จนกระทั่งทั้งสองคนได้เข้าเฝ้าและมีพระราชดำรัสเพื่อเตือนสติทำให้เหตุการณ์ต่างๆยุติลง จนทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความสงบนั่นคือประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในการเมืองไทย
ว่าไปแล้วพระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้วอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกับคนไทยทุกคน สิ่งที่พระองค์ท่านพึงปฏิบัติมาตลอดคือ การทำงานหนักอดทนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่า แต่เมื่อเกิดปัญหาทางการเมืองคนไทยก็ต้องพึ่งถึงพระองค์ท่านเพื่อให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ จนบางครั้งถูกข้อครหา”ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” ทั้งๆที่อะไรเป็นอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจกันดีว่าพระองค์ท่านต้องเข้ามายุ่งเพราะอะไร ก็เพื่อไม่ให้คนไทยต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง คนที่เป็นพ่อ จะปล่อยให้ลูกๆต้องเป็นไปอย่างนั้นหรือ นี่เป็นแก่นแท้ในความเป็นคน เพียงแต่ในฐานะของพระองค์ท่าน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดอะไรกันไปต่างๆนานา
แต่ความเป็นจริงในวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ถามว่าเมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันเองใครเป็นทุกข์มากที่สุดถ้าไม่ใช่คนเป็นพ่อหรือ วันนี้นักการเมืองถูกเว้นวรรคทางการเมืองเป็นการชั่วคราวหลังคสช.เข้ามาคุมอำนาจการปกครองประเทศ มีเสียงเรียกร้องให้คืนอำนาจ เพื่อไปสู่เลือกตั้งระบอบประชาธิปไตย ก็เป็นหนทางที่จะเดินไปตามครรลองทางการเมือง
ถามว่ามีการเลือกตั้งดีไหม แน่นอนว่าดีแน่ ความหมายความว่าให้ไปได้จนได้มีสิทธิ์มีเสียงมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ แต่ต้องฝึกคิดเช่นกันว่าทำไมคนยังมีคนไทยบางส่วน มีความรู้สึกห่วงใยว่าเลือกตั้งแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป จะย้อนกลับไปสู่วงจรเก่าๆหรือไม่นี่คือเรื่องที่นักการเมืองจะต้องตอบให้ได้ ไม่ใช่คิดแต่จะร้องหาการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว

SAWASDEENEWS

0%
Comments
Loading...