กรณี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวอย่างมีเงื่อนงำนานกว่า 3 เดือน จนกระทั่งพบชิ้นส่วนโครงกระดูกกะโหลกศีรษะเส้นผม เข็มขัดราชการ นาฬิกาข้อมือสีดำ ซึ่งคาดว่าเป็นของผอ.อ้อย ซึ่งค้นพบที่บริเวณทางขึ้นเนิน 500 ห่างจากฐานอนุพงศ์ บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้มีรายงานผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจว่าผลการตรวจดีเอ็นเอจากกะโหลกและกระดูกต้นขา พบว่าตรงกันกับผอ.อ้อย ซึ่งสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ เตรียมส่งรายงานผลพิสูจน์ดีเอ็นเอให้พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีทราบในวันที่ 28 ต.ค.นี้
ด้านนางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกแปลกใจหรือตื่นเต้นดีใจที่ผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อย เนื่องจากตนและครอบครัว ญาติพี่น้องทุกคนมั่นใจมากว่าศพที่พบคือศพของ ผอ.อ้อยอย่างแน่นอน หลังจากที่ตนและครอบครัวได้รับศพกลับมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนจะนำศพ ผอ.อ้อยมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 36 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ ผอ.อ้อย เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยจัดพิธีแต่งงานกับ นายวิทยา เกษแก้ว สามี และเป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยอยู่มาตลอด นับตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก จ.เชียงใหม่ โดยตนจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล จำนวน 3 วัน จากนั้น จะนำศพ ผอ.อ้อยไปฌาปนกิจที่วัดบ้านซำเม็ง ที่เป็นวัดอยู่ภายในหมู่บ้านต่อไป ส่วนเรื่องคดีความนั้น ตนมั่นใจว่าหลักฐานแน่นหนาชัดเจนขนาดนี้ ผู้ต้องหาคดีนี้คงไม่สามารถที่จะหลุดรอดไปได้ แต่ทีห่วงคือผู้ต้องหาที่เป็นนายทหารยศร้อยเอกอาจหลบหนีคดี เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้จนด้วยพยานหลักฐานที่ตนและญาติพี่น้องค้นหาจนเจอครบหมดแล้ว ตนขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ จำนวน 8 ข้อหาอยู่ระหว่างการฝากขังผลัดที่ 1 ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ จะครบกำหนดฝากขังผลัดที่ 2 ในวันที่ 30 ต.ค.60 นี้
หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อยแล้ว คาดว่าพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้กองเหน่งคือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ เป็นที่คาดว่าพนักงานสอบสวนและพ่อแม่ของ ผอ.อ้อยจะคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นข้อหาที่ร้ายแรงและคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งหากได้รับการประกันตัวอีก เกรงว่าอาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน รวมทั้งหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีอีกด้วย
ทีมข่าว
SAWASDEENEWS