ศุลกากรสุวรรณยึดงาช้าง 39 ท่อนและเกร็ดลิ่น15 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 11 ล้าน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.30 น.
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ร่วมกันแถลงข่าวที่กรมศุลการกรถึงการตรวจยึดงาช้าง 4 กิ่ง 39 ท่อน น้ำหนัก 116 กิโลกรัม และเกล็ดลิ่น 15 กิโลกรัม ที่ลักลอบนำเข้าจากเมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก คิดเป็นรวมมูลค่า 11,750,000 บาท
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ตรวจสอบข้อมูลบัญชีสินค้าทางอากาศยานแล้วพบข้อมูลการนำเข้าที่น่าสงสัยว่าจะมีการสำแดงเท็จเพื่อนำเข้าสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ ขนมาทางสายการบินเตอร์กิสแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK 064 โดยบินมาจากท่าอากาศยานกินชาซา เมืองกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีการสำแดงสินค้าเป็นกระเพาะปลา 3 หีบ น้ำหนักรวม 120 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดสินค้าและตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ ปรากฏพบภาพวัตถุคล้ายงาช้าง เจ้าหน้าที่จึงเฝ้ารอผู้รับมาปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร เพื่อจะทำการจับกุม แต่ไม่มีผู้ใดมาแจ้งขอดำเนินพิธีการทางศุลกากรแต่อย่างใด
การลักลอบนำเข้าในครั้งนี้เกี่ยวพันกับการลักลอบนำเข้างาช้าง 1 กิ่ง 28 ท่อน ที่ถูกตรวจยึดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาและเป็นการใช้ชื่อ-ที่อยู่ปลอม เพื่อปกปิดอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ต่อมาวันที่ 7พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เปิดตรวจสินค้าพบงาช้างอีก 4 กิ่ง 39 ท่อน น้ำหนักรวม 116กิโลกรัม และเกล็ดลิ่น 15กิโลกรัมซุกซ่อนมาด้วย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการลักลอบนำเข้างาช้างซึ่งเป็นสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดหรือนำผ่านซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าสงวน ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ได้ยึดงาช้างทั้งหมดไว้เป็นของกลาง และนำส่งให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเก็บรักษา ส่วนสำนวนคดีส่งตำรวจ บก.ปทส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป