หลังจากที่ Google Chrome ประกาศสงครามกับโฆษณาคุณภาพต่ำและคลิปวิดีโอที่เล่นเองอัตโนมัติบนหน้าเว็บไปแล้ว สิ่งต่อไปที่จะโดนจัดการก็คือ redirect ไปเว็บที่ไม่ต้องการ
Google ได้แชร์ผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านบราวเซอร์ Chrome พบว่าผู้ใช้ 1 ใน 5 ของผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์มักจะเจอคอนเทนท์ที่เราไม่ต้องการโชว์ขึ้นมา ดังนั้นทางกูเกิลจึงประกาศมาตรการรับมือเพื่อแก้ปัญหากวนใจให้กับผู้ใช้ โดยในปีหน้านั้นกูเกิลจะจัดการกับเว็บ third-party ที่มักจะใช้ปุ่มปลอมเพื่อหลอกให้คลิกดูโฆษณา, ใช้ transparent overlays ซ้อนลงไปบนหน้าเว็บโดยที่เรามองไม่เห็น เวลาที่เราคลิกตามจุดต่างของเว็บก็จะเปิดแท็บหรือหน้าต่างใหม่โดยที่เราไม่ต้องการ รวมไปถึง redirect ไปยังหน้าต่างหรือเว็บใหม่
มาตรการรับมือใหม่นั้นจะมีกำหนดการณ์เบื้องต้นดังนี้
-ต้นเดือนมกราคม 2018: จะเพิ่ม pop-up blocker ช่วยป้องกันไม่ให้เว็บสั่งเปิดแท็ปหรือหน้าต่างใหม่เอง ส่วนผู้ทำเว็บก็มีเครื่องมือ Abusive Experience Report ช่วยเช็คว่ามีอะไรที่ทางกูเกิลห้ามรึเปล่า
-ปลายเดือนมกราคม 2018 (ปล่อย Chrome เวอร์ชั่น 64): การ redirects ทั้งหมดที่เกิดจาก iframes นั้นจะถูกแสดงเป็น infobar แทน เพื่อป้องกันการ redirect ไปยังเพจใหม่ที่คุณไม่ต้องการเปิด
-ปลายเดือนมีนาคม 2018 (ปล่อย Chrome เวอร์ชั่น 65): ลิ้งค์ที่เปิดแท็ปใหม่แต่ redirect หน้าต่างที่เปิดอยู่ไปยังเพจที่ไม่ต้องการจะไม่สามารถทำงานได้อีก โดย Chrome จะทำการตรวจจับพฤติกรรมต่างๆของเว็บเพื่อป้องกันการ redirect
ส่วนมาตรการป้องกันที่สองจะมาพร้อมกับ Chrome 64 ทาง Google พบว่าหลายครั้งการ redirect เกิดจาก third-party content ที่ฝังไว้ในหน้าเว็บ ซึ่งกรณีนี้เจ้าของเว็บจะไม่ได้ตั้งใจให้ Redirect ไปเว็บอื่น ซึ่งกูเกิลจะเพิ่มเครื่องมือ “Redirect blocked” คล้ายๆกับบน Android มาตรการป้องกันที่สาม ก็คือต่อไป Chrome จะสามารถโชว์หน้าต่างรีไดเร็กที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด เพื่อให้ปิดลิงค์ที่ไม่ต้องการได้ทั้งหมด