โซเซียลเป็นเหตุ! มือโพสต์มาเฟียโรงเกลือเรียกเก็บเงินค่ากลับรถโดนแจ้งจับ!
วันที่ 19 มกราคม 2561
สืบเนื่องมาจากมีการแชร์และคอมเม้นท์ในโพสต์ Facebook จำนวนมาก เกี่ยวกับมีมาเฟียเรียกเก็บเงินค่ากลับรถบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองตำบลคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในคอมเม้นท์มีจำนวนไม่น้อยที่พาดพิง ถึงเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีมาเฟียไม่ดำเนินการกับมาเฟีย เกี่ยวกับเรื่องนี้สวัสดีนิวส์ได้ส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวสวัสดีนิวส์ ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 Facebook ใช้ชื่อว่านายโสภณ นนทคำจันทร์ ได้โพสต์ข้อความว่า” มาเฟียยังเหลืออยู่แค่เข้ามากลับรถหน้าด่านโรงเกลือถูกเรียกเก็บเงิน 300 บาท” โดยลงรูปและคลิปบุคคลที่เรียกเก็บเงินนั้นด้วย ในโพสต์ดังกล่าวได้มีผู้เข้ามาแชร์และคอมเมนท์จำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บุคคลในภาพและคลิปตามโพสต์ Facebook ของนายโสภณ นนทคำจันทร์ คือนายสดใส กุมรัมย์ ซึ่งเป็นพนักงานเก็บเงินพื้นที่ลานจอดของ บริษัททวิน โกลเด้นแทรเวลจำกัด โดยหลังจากเกิดเรื่อง นายสดใส กุมรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับพันตำรวจโทเฉลียวบุญคุ้ม สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองลึก ให้ดำเนินคดีกับนายโสภณ นนทคำจันทร์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาทางโซเชียล ซึ่งในการแจ้งความดังกล่าวนายสดใส กุมรัมย์ได้นำเอกสารและคลิปวิดีโอมอบเป็นหลักฐานแก่พันตำรวจโทเฉลียว บุญคุ้ม หลังจากรับแจ้ง พันตำรวจโทเฉลียว บุญคุ้มได้สอบสวนนายสดใส กุมรัมย์ ได้ความว่า เมื่อประมาณวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ขณะที่นายสดใสทำหน้าที่ เก็บเงินอยู่ในพื้นที่ลานจอดของบริษัท ได้มีรถแท็กซี่ Innova สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน มฏ 2998 กรุงเทพมหานคร ขับโดยนายโสภณ วิ่งย้อนศร ทางออกเข้ามาในลานจอด ซึ่งจัดเป็นที่จอดสำหรับรถ VIP ของผู้ใหญ่และหน่วยราชการบางหน่วยที่ประสานงานขอเข้าจอด จากนั้นได้มีผู้โดยสารขึ้นรถคันดังกล่าว ตนจึงเดินเข้าไปเพื่อเรียกเก็บเงินค่าจอด เกิดการโต้เถียงกัน โดยในตอนแรกตนเองจะเก็บเงินค่าจอด 300 บาท ทางผู้โดยสารของรถคันดังกล่าวได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองลึกให้มาช่วยไกล่เกลี่ย นายสดใสจึงโทรศัพท์แจ้งผู้จัดการบริษัท นายอนุกล้า อ่อนน้อม ซึ่งนายอนุกล้า อ่อนน้อมผู้จัดการได้แจ้งมาให้จ่ายเพียง 100 บาท โดยระหว่างนั้น นายโสภณได้บันทึกคลิปวีดีโอ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าววันรุ่งขึ้น โสภณได้โพสต์ข้อความและคลิปอันเป็นการหมิ่นประมาทตน จึงได้มาแจ้งความดังกล่าว

หลังจากรับแจ้งและทำการสอบสวนเรียบร้อย พันตำรวจโทเฉลียว ได้ส่งหมายเรียกไปยังบ้านของนายโสภณที่จังหวัดร้อยเอ็ด ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นนายโสภณได้เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ยอมรับว่าทำการโพสต์ข้อความและลงคลิปวีดีโอพร้อมรูปถ่ายของนายสดใสจริง เนื่องจากเกิดการโต้เถียง มีปากมีเสียงกันขึ้น จึงทำไปด้วยอารมณ์โมโห พร้อมกับยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด พันตำรวจโทเฉลียวจึงแจ้งให้นายสดใส มาพบและทำการไกล่เกลี่ย ซึ่งนายสดใสได้นำนายโสภณเข้าพบ นายอนุกล้า อ่อนน้อม ผู้จัดการบริษัท ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของนายสดใส เพื่อขอโทษจากการกระทำของตนเอง ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดคิดว่าพื้นที่ที่นายโสภณเข้ามาจอดนั้นเป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งนายอนุกล้า อ่อนน้อม ได้ยอมรับการขอโทษและได้ให้นายสดใส กุมรัมย์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน แล้วถอนแจ้งความ โดยหลังจากนั้นนายโสภณได้ทำการลบโพสต์ทั้งหมด และโพสต์ในเฟสของตนเองขอโทษนายสดใส

พันตำรวจโทเฉลียว ได้ฝากเตือนผ่านผู้สื่อข่าวถึง ผู้ที่โพสต์ข้อความหรือการลงคลิปในโซเชียล ขอให้ระมัดระวังในการที่จะโพสจ์หรือคอมเมนท์ ต่างๆ อย่าได้ไปโพสต์ในลักษณะการละเมิดสิทธิ์หรือหมิ่นประมาทผู้อื่น เพราะการโพสต์ในโซเชียลแค่ระยะเวลาไม่กี่วินาทีมันแพร่กระจายไปทั่ว ซึ่งอาจจะเป็นภัยกับตัวเองเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้