ตุรกีกร้าวพร้อมปะทะสหรัฐหากไม่เลิกหนุนหลังผู้ก่อการร้ายในอาฟริน!
วันที่ 25 มกราคม 2561
รองนายกรัฐมนตรีของตุรกี Bekir Bozdag ประกาศชัด “ถ้าวอชิงตันต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับตุรกีทางตอนเหนือของซีเรีย ควรหยุดการสนับสนุนผู้ก่อการร้าย บรรดาผู้ที่สนับสนุนองค์กรก่อการร้ายจะกลายเป็นเป้าหมายในการรบครั้งนี้ และสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องทบทวนทหารและองค์ประกอบของตนเพื่อสนับสนุนผู้ก่อการร้ายบนพื้นดินเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตุรกี”

การประกาศของรองนายกรัฐมนตรีตุรกีมาพร้อมกับการปฏิบัติการมางทหารของตุรกีที่ชื่อว่า ‘Olive Branch’ ในเมือง Afrin ซึ่งเป็นเมืองที่ควบคุมโดยชาวเคิร์ดซึ่งสหรัฐหนุนหลังการสร้างกองกำลังรักษาความปลอดภัยชายแดนที่เข้มแข็งหลายพันคนพร้อมกับนักสู้ชาวเคิร์ดรวมทั้งจากหน่วยพิทักษ์ประชาชน (YPG) ที่เป็นแกนหลัก
ตุรกียืนยันว่า YPG เชื่อมโยงกับ PKK หลังถูกระบุเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายในตุรกีซึ่งได้ต่อสู้มาหลายสิบปีแล้ว
แถลงการณ์ของ Bozdag เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงวันหลังจากประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan พูดคุยทางโทรศัพท์กับ Donald Trump ของสหรัฐฯ ซึ่งกังวลว่าการดำเนินการทางทหารของตุรกีอย่างต่อเนื่องในซีเรียหากไม่ลดขนาดลงอาจส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างสหรัฐกับตุรกี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ “เรียกร้องให้ตุรกีใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจมีความขัดแย้งระหว่างกองกำลังตุรกีและสหรัฐอเมริกา”ผู้นำสหรัฐฯเรียกร้องให้อังการายกเลิกการเพิ่มกำลังทหารและ “จำกัด การกระทำของทหาร” เพื่อ “หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายและการเพิ่มขึ้นของพลเรือนให้กับผู้ลี้ภัยและผู้ลี้ภัย”
Manbij อยู่ห่างจาก Afrin ประมาณ 100 กิโลเมตรและจัดโดยหน่วยทหารรักษาการณ์ของชาวเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯทำให้เกิดความกลัวว่าจะมีการปะทะกันโดยตรงระหว่างอังการาและวอชิงตัน