สีจิ้นผิงพบประยุทธ์ยันพร้อมสนับสนุนไทยในทุกด้าน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีของไทยได้พบประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงสานสัมพันธ์ในกระประชุมความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย.) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน และนายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงได้พบกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยที่เดินทางมาเยือนกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมการประชุม”หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 2 (2nd Belt and Road Forum for International Cooperation – BRF)ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 เม.ย. นี้โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกล่าวว่า จีนและไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดมีการพัฒนาร่วมกันภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทั้งสองประเทศจึงควรสานต่อมิตรภาพที่มีแต่เดิมไว้และควรเพิ่มระดับการติดต่อระดับสูงเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มั่นคงต่อไป จีนจะสนับสนุนความพยายามของไทยในการรักษาเสถียรภาพในประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาในประเทศ โดยจีนยินดีที่จะเสริมสร้างการพัฒนาด้านยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้สอดคล้องกันรวมถึงผลักดันความร่วมมือระดับสูงภายใต้แผน “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เพื่อสานสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
.
สีจิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า จีนสนับสนุนบทบาทของไทยในฐานะประธานหมุนเวียนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ พร้อมกล่าวเสริมว่าจีนยินดีที่จะปรับแนวทางโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ให้สอดคล้องกับแผนความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity)ด้านหลี่เค่อเฉียงกล่าวว่า จีนสนับสนุนให้ประเทศไทยพัฒนาในแนวทางที่เหมาะสมกับตนเอง โดยจีนยินดีที่จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองซึ่งกันและกัน เพิ่มการติดต่อระดับสูง เพิ่มความร่วมมือเชิงปฏิบัติ และเพิ่มความความร่วมมือกับไทยภายใต้กลไกความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพ และการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาคแห่งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีของไทยได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของจีนในด้านต่างๆ ทั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การบรรเทาความยากจน และการปกป้องสิ่งแวดล้อม พร้อมกล่าวว่าประเทศไทยได้รับประโยชน์อย่างมากจากโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อข้อมูลตั้งแต่เริ่มแผนหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เมื่อเกือบ 6 ปีที่แล้ว โดยจากนี้ไทยจะยังคงสนับสนุนและมีส่วนร่วมในแผนดังกล่าวต่อไป พร้อมแสดงความยินดีที่จะปรับกลยุทธ์การพัฒนาของไทยให้สอดคล้องกับแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง อีกทั้งจะเรียนรู้ประสบการณ์ของจีนเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจและการลดความยากจน