พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสากว่า 1,000 คน ร่วมปลูกป่าและป้องกันไฟป่า บริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และฟื้นฟูป่าไม้ที่ถูกทำลายให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
นายกฯนำปลูกป่าและสร้างแนวกันไฟป่า
นายกฯถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 68 พรรษา 28 กรกฎาคม 2563 และเปิดโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า โดยกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญในเรื่องน้ำและป่า เนื่องจากการสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำเป็นสาเหตุหลักที่แท้จริงของปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยได้พระราชทานแนวพระราชดำริตลอดจนพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และเพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และยั่งยืน จึงมีพระมหากรุณาธิคุณมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับทุกหน่วยงาน เพื่อร่วมดำเนินการโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า
โดยรัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ มาใช้เป็นแนวทางการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบาย โดยผลการดำเนินงานอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ที่ผ่านมาตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบันได้หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล และยึดคืนพื้นที่ป่าไม้ได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนได้น้อมนำแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้โดยให้คนอยู่กับป่าอย่างสมดุลและยั่งยืน และส่งเสริมให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ซึ่งผลสัมฤทธิ์จากทรัพยากรป่าไม้และพื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้น จะส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
พร้อมเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนปลูกต้นไม้ทั่วประเทศ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทุกคนจะได้ร่วมมือกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ช่วยกันทำดีฟื้นฟูป่า ปลูกป่า โดยเราต้องร่วมมือกันให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลคือรวมไทยสร้างชาติที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม
นายกฯนำปลูกป่าและสร้างแนวกันไฟป่า
นายกฯขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ สืบสานและต่อยอดพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดีใจที่ข้าราชการ ผู้นำชุมชน และท้องถิ่น ร่วมมือกันและคิดอย่างเป็นระบบ เมื่อพูดถึงป่าต้องพูดถึงน้ำควบคู่กันไป เพราะจุดมุ่งหมายของการรักษาป่าคือต้องการมีน้ำและประชาชนได้ประโยชน์จากป่าและน้ำ พร้อมขอให้รณรงค์เพิ่มเติมปลูกไม้มีค่า 58 ชนิดเพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน ไม่ใช่ว่าคนอยู่กับป่าไม่ได้สุดท้ายก็จะเกิดปัญหามีการบุกรุก มีการหาประโยชน์แบบผิดกฎหมาย สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์คนจนต้องติดคุก เพราะเขาไม่สามารถไปหาประโยชน์จากป่าได้ ขอให้ข้าราชการคิดถึงประชาชนเป็นหลัก สอบถามความต้องการของประชาชน เน้นความโปร่งใสให้เกิดการยอมรับ สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องน้ำมีหลายอย่าง อย่าทำเฉพาะโครงการใหญ่เพียงอย่างเดียว ต้องทำโครงการเล็กควบคู่กันไปเพราะจะทำได้ง่ายกว่า
โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่ามีเป้าหมายปลูกป่าทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านไร่ ดำเนินการทั้งหมด 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 เป็นระยะเร่งด่วน ดำเนินการใน 6 จังหวัดคือ เชียงใหม่ ตาก น่าน นครราชสีมา ชัยภูมิ และนครศรีธรรมราช ซึ่งต้องดำเนินการปลูกป่าให้เสร็จภายในวันที่ 28 ก.ค. 63 ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ส่วนจังหวัดอื่น รวมทั้งกรุงเทพฯ ปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวจังหวัดละ 100 ไร่ รวมทั้งประเทศ 7,100 ไร่ ส่วนระยะที่ 2 และ 3 ดำเนินการในปี 2563-2570 จะเป็นการฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตป่า