นายกฯปลื้มเราชนะไปด้วยกันดีใจที่ประชาชนได้ประโยชน์ตามเป้าหมายของโครงการ

1,367

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเผยได้รับรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ได้ขยายเวลาการลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ “เราชนะ” สำหรับประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ได้แก่ ผู้พิการ คนป่วยติดเตียง และคนชรา จากวันที่ 5 มีนาคม ออกไปจนถึงวันที่ 26 มีนาคม ผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ขอให้ติดต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น เพื่อประสานงานกับหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสินได้เลย

นายกฯปลื้มเราชนะไปด้วยกันดีใจที่ประชาชนได้ประโยชน์ตามเป้าหมายของโครงการ

วันที่ 5 มีนาคม มีผู้รับสิทธิ์โครงการ “เราชนะ” ไปแล้ว 30.7 ล้านคน ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการ แอปเป๋าตัง และบัตรประชาชนรวมกัน 77,579 ล้านบาท เม็ดเงินจำนวนมากนี้กระจายไปสู่ร้านค้าในชุมชน ร้านธงฟ้า แผงลอยในตลาดสด รถเข็นขายผลไม้ ร้านอาหาร คนขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ร้านตัดผม และอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า หนึ่งล้านสองแสนราย ทั้งหมดนี้ จะถูกกระจายต่อไปอีกหลายทอด หมุนเวียนอยู่ในเศรษฐกิจระดับฐานราก

นี่คือวัตถุประสงค์ของ “เราชนะ” ที่ให้เป็นสิทธิใช้จ่ายผ่านแอบ เพื่อให้เม็ดเงินลงไปถึงประชาชนทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ ถ้าให้เป็นเงินสด ผู้ที่ได้รับสิทธิอาจจะสะดวก แต่ผมเชื่อว่าเม็ดเงินส่วนใหญ่จะไหลเข้าร้านสะดวกซื้อ หรือเอาไปใช้หนี้บัตรเครดิต ไม่ตรงเป้าที่เราอยากได้

นายกฯขอบคุณเจ้าของร้านค้าที่ขายสินค้าในราคาปกติ เพราะตอนนี้มีร้านค้าบางรายฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ขออย่าทำกันเลยโครงการนี้ สร้างโอกาสให้ท่านได้ขายสินค้าได้มากขึ้น ไม่อยากให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชน

นายกฯปลื้มเราชนะไปด้วยกันดีใจที่ประชาชนได้ประโยชน์ตามเป้าหมายของโครงการ

สิ่งที่รับไม่ได้ก็คือ มีผู้ทุจริตรับซื้อสิทธิจากคนที่อยากได้เงินสด แล้วไปใช้สิทธิผ่านร้านค้าที่จัดตั้งกันขึ้นมา โดยไม่มีการซื้อขายจริง เพื่อเอาเงินที่รัฐบาลจ่ายให้ออกมาจากกระเป๋าถุงเงินของร้าน ขอเตือนว่า อย่าทำ มันคือการโกงเงินหลวง และสามารถตรวจสอบได้จากระบบที่จะเตือนเมื่อมีธุรกรรมที่ผิดปกติ การซื้อขาย โอนเงินทุกครั้งจะถูกบันทึกไว้ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ มีหลักฐานว่าใครซื้อ ใครขาย ใครเอาเงินออกที่ร้านไหน และโอนเงินไปอยู่กับใคร

ที่ผ่านมาโครงการ “คนละครึ่ง” จับคนทุจริตได้ 700 ราย มีร้านค้าถูกยกเลิกไปแล้ว 200 ราย โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จับคนทุจริตทั้งโรงแรม คนที่ขายสิทธิรวมกัน 9 พันกว่าราย ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีฉ้อโกง อายุความ 10 ปี ผิดทั้งคนซื้อสิทธิ คนขายสิทธิ และร้านค้า ซึ่งทุกคนจะถูกบันทึกประวัติไว้ในฐานข้อมูล เพราะฉะนั้น ย้ำอีกครั้งว่าอย่าทำเลย

นายกฯกล่าวมีร้านค้าจำนวนมากมียอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่มีโครงการ “คนละครึ่ง” ต่อเนื่องมาจนถึงโครงการ “เราชนะ” และอยากให้ขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี นายกฯดีใจที่ประชาชนได้ประโยชน์ตามเป้าหมายของโครงการ และขอให้ช่วยกันออกไปใช้สิทธิกันนะครับ การใช้สิทธิของท่านคือ การช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินไปข้างหน้า เป็นโครงการที่เราชนะไปด้วยกัน

Comments
Loading...