รัฐวอนคุมแคมป์คนงานงดเดินทางกลับต่างจังหวัด

รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ควบคุมแคมป์คนงาน ไม่ให้แรงงานเดินทางกลับต่างจังหวัด กระทรวงแรงงานจะดูแลค่าจ้างและความเป็นอยู่ทุกแคมป์ที่ถูกปิดชั่วคราว

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้มีการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีความห่วงใยกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในแคมป์ที่พักคนงานโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดภาคใต้ คือ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา จึงมีมติให้ปิดแคมป์คนงานเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพื่อระงับการแพร่ระบาด

โดยกระทรวงแรงงานจะประสานกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่พบผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงมาตรการความช่วยเหลือจากรัฐบาล พร้อมขอความร่วมมืองดการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้ โดยในช่วงที่ปิดแคมป์ กระทรวงแรงงานจะมีมาตรการเยียวยาให้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เป็นการชดเชยเยียวยากรณีว่างงาน เพราะเหตุสุดวิสัย เนื่องจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. ซึ่งในเบื้องต้น กระทรวงแรงงานมีแผนที่จะทำรายการจ่ายเงินสดให้คนงานที่แคมป์ทุกๆ 5 วัน ตลอด 1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่มีการปิดแคมป์ดังกล่าว ซึ่งกระทรวงแรงงานจะมีระบบตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยานั้น จะต้องอยู่ในแคมป์จริงๆ หากลูกจ้างคนใดไม่อยู่ในแคมป์ก็จะพิจารณาอีกทีเป็นรายๆ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะลงไปตรวจโควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ที่ปิด และหากแคมป์ใดถือว่าปลอดภัยแล้วและได้รับวัคซีนในส่วน ม.33 แล้ว รวมถึงคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย จะดำเนินการปลดล็อคให้แคมป์นั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุดและอาจไม่ต้องรอให้ครบ 1 เดือน ขณะที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชน จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้ในช่วงที่แรงงานต้องหยุดการทำงานทั้งหมด

นอกจากนี้ในช่วงที่ปิดแคมป์คนงาน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาด และไม่ให้คนงานเดินทางกลับต่างจังหวัด โดยหน่วยงานของรัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ให้เรียบร้อย ซึ่งกระทรวงแรงงานและผู้ว่าราชการจังหวัด จะขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเข้าไปเฝ้าระวัง ดูแลปลอดภัย ในแต่แคมป์ด้วย